vwinsportsth วิเคราะห์บอลแม่น , ทายผล , อัตราต่อรอง ,กีฬาชั้นนำทั่วโลก ให้คุณอัพเดตก่อนใคร
ในรอบหนึ่งทศวรรษ หรือตลอดระยะเวลา 10 ปีหลังสุด นับตั้งแต่ฤดูกาล 2009/10 เป็นต้นมา ทีมไหนสามารถโกยเงินจากการขายนักฟุตบอลในสังกัดได้มากที่สุด คำตอบก็คือ “เหยี่ยวลิสบอน” เบนฟิก้า ทีมยักษ์ใหญ่แห่งลีกลูกหนังโปรตุเกส กลายเป็นสโมสรที่”ขายนักเตะ”ได้เงินเข้าสู่ทีมมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาด้วยมูลค่าถึง 1 พันล้านปอนด์
เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาเราได้เห็นหลายทีมพยายามทุบกระปุกเงินก้อนสุดท้ายเพื่อเสริมนักเตะหวังพาทีมประสบความสำเร็จ และหลายทีมก็ยิ้มแก้มปริตัวเองหาเงินเข้าสโมสรได้ในช่วงวิกฤติเช่นนี้
เราจึงได้รวบรวมสถิติการขายนักเตะที่มีมูลค่ารวมต่อทีมมากที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2009/10 เป็นต้นมา โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์เก็บสถิติชื่อดัง และน่าแปลกใจที่มีเพียงไม่กี่ทีมที่ทำกำไรจากการขายนักเตะได้ ถึงแม้นักเตะแต่ละคนจะมีค่าตัวสูงลิ่วก็ตาม
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ย้ายไปบาร์เซโลน่าด้วยค่าตัว 130 ล้านปอนด์ ความสำเร็จของลิเวอร์พูลในยุคของ เยอร์เก้น คล็อปป์ มาพร้อมกับการยกเครื่องนักเตะใหม่แทบทั้งชุด กุนซือชาวเยอรมันสร้างทีมมาจากการขายนักเตะค่าตัวแพงอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (130 ล้านปอนด์), หลุยส์ ซัวเรซ (72 ล้านปอนด์) และ ราฮีม สเตอร์ลิง (57 ล้านปอนด์) และในตลาดซื้อขายเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา พวกเขาก็ได้เงินจากการปล่อยนักเตะอย่าง ริอาน บรูว์สเตอร์ (18 ล้านปอนด์) และ เดยัน ลอฟเรน (11 ล้านปอนด์) แต่เมื่อหักลบจากการลงทุนที่ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ ลีก ปรากฏว่าพวกเขาขาดทุนไปถึง 294 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่แฟนหงส์แดงคิดว่าคุ้มค่ากับความสำเร็จที่ได้มา
ฮาเมส รอดริเกซ ย้ายไปโมนาโกด้วยค่าตัว 42 ล้านปอนด์ ปอร์โต้ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเด็กสร้างของยุโรปอย่างแท้จริง โดยเฉพาะนักเตะที่นำเข้ามาจากอเมริกาใต้ เอแดร์ มิลิเตา (44.5 ล้านปอนด์), ฮาเมส รอดริเกซ (42 ล้านปอนด์), ฮัลค์ (35 ล้านปอนด์) และ เอเลียควิม ม็องกาลา (32 ล้านปอนด์) พวกเขาได้ตัวแข้งเหล่านี้ตั้งแต่เป็นเยาวชนและย้ายไปอยู่ทีมยักษ์ใหญ่ทั้งสิ้น พวกเขาเป็นรองเพียงเบนฟิก้าในลีกโปรตุเกสที่ทำกำไรจากการขายนักเตะไปมากถึง 393 ล้านปอนด์ตลอด 10 ฤดูกาลที่ผ่านมา และทั้งสองสโมสรก็แบ่งปันความสำเร็จด้วยการที่ปอร์โต้คว้าแชมป์ลีกสูงสุดไป 5 ครั้งส่วนเบนฟิก้าทำได้ไป 6 ครั้ง แต่เป็นปอร์โต้ที่ได้แชมป์ยูโรป้า ลีกไปเชยชมอีกหนึ่งถ้วย
อลิสซอน และ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ย้ายไปลิเวอร์พูลด้วยค่าตัวรวม 92 ล้านปอนด์ หากกำลังสงสัยว่ามียอดนักเตะคนใดบ้างที่จบมาจากโรงเรียนหมาป่า ก็จงมองดูที่พรีเมียร์ลีกในปัจจุบันละกัน ลิเวอร์พูลคงจะไม่เป็นแชมป์ลีกหากไร้นักเตะอย่าง อลิสซอน และ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ที่มัดรวมค่าตัวกันมาได้ 92 ล้านปอนด์ รัดยา นาอิงโกลัน (34 ล้านปอนด์) และ คอสตาส มาโนลาส (32 ล้านปอนด์) ยังเป็นอีกสองนักเตะที่ทำกำไรให้กับสโมสร และที่น่าทึ่งเมื่อโรม่าทำได้เพียงแค่แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สองสมัยในช่วง 10 ปีหลังสุด ถึงแม้พวกเขาจะขาดทุนไป 39 ล้านปอนด์ก็ตาม
อังเคล ดิ มาเรีย และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำเงินให้กับเรอัล มาดริดไปถึง 148.7 ล้านปอนด์ หนึ่งในสโมสรที่โดนวิกฤติโรคระบาดเล่นงานมากที่สุดทีมหนึ่งของยุโรป ราชันชุดขาวทำเรื่องน่าประหลาดใจเมื่อพวกเขาไม่เซ็นนักเตะหน้าใหม่เข้าสู่ทีมแม้แต่คนเดียวเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา อัคราฟ ฮาคิมี (36 ล้านปอนด์), เซร์คิโอ เรกีลอน (27 ล้านปอนด์) และ ออสการ์ รอดริเกซ (12 ล้านปอนด์) ต้องเก็บข้าวของย้ายออกจากถิ่นซานติอาโก เบอร์นาเบว อย่างไรก็ตาม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (89 ล้านปอนด์) และ อังเคล ดิ มาเรีย (59.7 ล้านปอนด์) คือสองนักเตะที่นำเม็ดเงินเข้าสู่สโมสรอย่างมหาศาล ด้วยจำนวนรายรับถึง 823 ล้านปอนด์ พวกเขาขายนักเตะไปเพียง 138 คนเท่านั้น หากเทียบกับอันดับหนึ่งอย่างเบนฟิก้าที่ต้องขายนักเตะถึง 427 คน
เนย์มาร์ ย้ายไปร่วมทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมงด้วยค่าตัว 198 ล้านปอนด์ ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่สำหรับทีมเจ้าบุญทุ่ม ที่มีอคาเดมีที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกอย่าง ‘ลา มาเซีย’ คอยปั้นนักเตะขาย เม็ดเงินราว 862 ล้านปอนด์มาจากการที่พวกเขาต้องขายนักเตะเพียง 148 คน แถมพวกเขายังประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการคว้าแชมป์ลา ลีก้า 7 สมัยและแชมเปี้ยนส์ ลีกอีก 2 สมัย บาร์ซ่าจะอยู่ในรายชื่อนี้ไม่ได้เลยหากพวกเขาไม่ได้ขายยอดแข้งอย่าง เนย์มาร์ ไปให้กับปารีส แซงต์-แชร์กแมงด้วยค่าตัวสถิติโลกที่ 198 ล้านปอนด์เมื่อปี 2017 อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องขาดทุนสะสมถึง 613 ล้านปอนด์นับตั้งแต่ฤดูกาล 2009/10 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นทีมที่ขาดทุนจากการซื้อขายนักเตะมากที่สุดในรายชื่อ 10 สโมสรนี้ และพวกเขากำลังประสบวิกฤติการเงินอย่างหนัก
คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ย้ายไปปารีส แซงต์-แชร์กแมงด้วยค่าตัว 127 ล้านปอนด์ มหาเศรษฐี ดิมิทรี ไรโบลอฟเลฟ ทำให้โมนาโกกลายเป็นมหาอำนาจอยู่พักหนึ่งช่วงกลางยุค 2010 คิลิยัน เอ็มบัปเป้, โธมัส เลอมาร์, ฮาเมส รอดริเกซ และ อองโตนี มาร์กซิยาล คือสี่นักเตะที่ล้วนมาจากผลผลิตของโมนาโกยุคนี้ และกลายเป็นแหล่งปั้นดาวรุ่งชั้นยอดของยุโรป เพียงแค่ 4 คนข้างต้นรวมกันก็นำเงินเข้าสู่สโมสรไปได้แล้วถึง 316 ล้านปอนด์ และโมนาโกคือทีมเดียวนอกเหนือจากทีมในโปรตุเกสที่ทำกำไรได้จากการซื้อขายนักเตะรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลงานของพวกเขาในลีกช่วงหลังที่อันดับ 17 และอันดับ 9 ก็พอจะบ่งบอกถึงความเหนียวของบอร์ดบริหารได้เป็นอย่างดี
เอเด็น อาซาร์ ย้ายไปเรอัล มาดริดด้วยค่าตัว 150 ล้านปอนด์ ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ทีมจอมช็อปอย่างเชลซีติดอันดับนี้เนื่องจากการถูกลงโทษห้ามเซ็นนักเตะเป็นเวลาสองรอบตลาดซื้อขายในยุคของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ทำให้กุนซือรายนี้จำเป็นต้องปล่อยแข้งที่ไม่ได้ใช้งานและเลื่อนชั้นนักเตะดาวรุ่งขึ้นมาทดแทน เมื่อซัมเมอร์ปี 2019 พวกเขาโกยเงินรวม 113 ล้านปอนด์ นับเป็นสถิติใหม่ตั้งแต่ที่ ‘เสี่ยหมี’ โรมัน อบราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร เอเด็น อาซาร์ คือนักเตะที่ทำเงินให้มากที่สุดที่ 150 ล้านปอนด์ ตามมาด้วย ออสการ์ (52 ล้านปอนด์) และ ดิเอโก คอสต้า (50 ล้านปอนด์) อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินดังกล่าวก็เทีบไม่ได้เลยกับมูลค่ารวมที่พวกเขาเสริมทัพมาในช่วง 10 ปีให้หลังที่ใช้เงินเป็นเบี้ยถึง 1.45 พันล้านปอนด์
582 แข้งที่ผ่านมือยูเวนตุส และกว่าอีก 591 รายนี้ย้ายเข้ามา นั่นหมายความว่าอคาเดมีของยูเวนตุสยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
ปอล ป็อกบา เคยย้ายทีมด้วยค่าตัวสถิติโลกที่ 89 ล้านปอนด์เมื่อย้ายกลับไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อปี 2016
เลโอนาร์โด โบนุชชี (37 ล้านปอนด์), อาร์ตูโร วิดัล (35 ล้านปอนด์) และ มอยเซ่ คีน (24 ล้านปอนด์) คือรายชื่อแข้งถูกขายทำเงินให้กับทีมเบอร์ต้น ๆ
อองตวน กรีซมันน์ ย้ายไปบาร์เซโลน่าด้วยค่าตัว 107 ล้านปอนด์ หนึ่งทีมที่ได้รับผลกระทบทางด้านการเงินจากวิกฤติแพร่ระบาดของโควิด-19 มากที่สุดคงจะหนีไม้พ้นแอตเลติโก มาดริด ทั้ง อัลบาโร โมราตา, ซานติอาโก อารีอาส และ โธมัส ปาร์เตย์ จำต้องขนข้าวของย้ายไปอยู่สโมสรอื่นเพื่อลดค่าใชจ่ายที่ไม่จำเป็นรวมถึงรายรับที่ได้มาอย่างจำกัดจำเขี่ย แต่นั่นเป็นเพียงส่วนน้อยหากจะพูดถึงเม็ดเงินรวมที่พวกเขาขายนักเตะได้ในช่วง 10 ปีหลัง อองตวน กรีซมันน์ (107 ล้านปอนด์), ดิเอโก คอสต้า (32 ล้านปอนด์) และ ราดาเมล ฟัลเกา (51 ล้านปอนด์) ทำให้พวกเขาขึ้นมาถึงอันดับสองในการจัดอันดับครั้งนี้
รูเบน ดิอาส ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ด้วยค่าตัว 64 ล้านปอนด์ นอกจากที่พวกเขาเป็นเพียงทีมเดียวที่ขายนักเตะได้เงินมาจุนเจือสโมสรมากถึง 10 หลัก แต่พวกเขายังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดไปถึง 6 สมัย ซัมเมอร์ที่ผ่านมาพวกเขาขาย รูเบน ดิอาส ให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไป 64 ล้านปอนด์ ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ขาย เอแดร์ซอน (35 ล้านปอนด์) และ ชูเอา เฟลิกซ์ (101 ล้านปอนด์) เช่นเดียวกับยอดแข้งมากมายทั้ง เนมานย่า มาติช (21 ล้านปอนด์), แอ็กเซล วิตเซิ่ล (34 ล้านปอนด์) และ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ (32 ล้านปอนด์) สิริรวมหักลบกลบหนี้ในการซื้อขายนักเตะทั้งหมด พวกเขาฟันกำไรเละเทะ 539 ล้านปอนด์
ทีมดังจากแดนฝอยทองทีมนี้ส่งออกนักเตะชั้นนำออกมาหลายต่อหลายคนแล้ว และนี่คือ 5 แข้งค่าตัวแพงที่พวกเขาเคยขายออกจากทีม
นอกจากบรรดานักเตะพลังหนุ่มของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมแล้ว ดาวเตะวัย 19 ปีรายนี้ก็ถือว่าเป็นดาวรุ่งที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ต้นสังกัดอย่าง เบนฟิกา คว้าดับเบิ้ลแชมป์ในประเทศมาครองได้สำเร็จ จนทำให้มีหลายทีมให้ความสนใจดึงตัวไปร่วมทีม แต่สุดท้ายก็เป็นทาง “ตราหมี” ที่ยอมจ่ายเงินกว่า 126 ล้านยูโรเป็นค่าฉีกสัญญาเพื่อดึงตัว เฟลิกซ์ มาร่วมทีมในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ต้องยอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้รักษาประตูคือตำแหน่งที่บรรดาทีมยักษ์ใหญ่แทบจะมองข้ามไม่ได้ ทำให้ในทุกวันนี้ค่าตัวของมือกาวแต่ละคนสูงๆ ทั้งนั้น โดยเมื่อปี 2017 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 40 ล้านยูโรเพื่อดึงตัวนายด่านชาวบราซิลรายนี้มาร่วมทีม ซึ่งในตอนนั้นถือว่าเขาคือผู้รักษาประตูที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกแทนที่ของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ที่ครองสถิตินี้มาอย่างยาวนาน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 เบนฟิกาได้ตัดสินใจปล่อยตัวดาวรุ่งวัย 23 ปีรายนี้ไปให้กับทีมยักษ์ใหญ่ในลีกของรัสเซีย ซึ่งผลกลายเป็นว่า วิตเซล ก็สามารถขึ้นมาเป็นกำลังของทีมได้ในเวลาอันรวดเร็วจนมีชื่อติดทีมชาติเบลเยี่ยมชุดใหญ่ในที่สุด ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจย้ายไปโกยค่าเหนื่อยกับทีมในลีกประเทศ และล่าสุดตอนนีเจ้าตัวค้าแข้งอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ในเวทีบุนเดสลีกา เยอรมันด้วยวัยเพียงแค่ 30 ปี
ในฤดูกาลที่ผ่านมาทีมน้องใหม่ของเวทีพรีเมียร์ลีกอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้ตัดสินใจยืมตัวกองหน้ารายนี้มาร่วมทีม ซึ่งกลายเป็นว่าดาวยิงชาวเม็กซิโกรายนี้สามารถเล่นร่วมกับทีมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังยิงประตูให้กับทีมจนสามารถพาทีมมาจบฤดูกาลในอันดับที่ 7 ของตาราง โดยในช่วงท้ายซีซั่นทาง “หมาป่า” ได้ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 38 ล้านยูโรเพื่อดึงตัว กิมิเนซ มาร่วมทีมแบบถาวรในที่สุด
ดาวเตะชาวโปรตุเกสรายนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะในตำแหน่งแบ็คขวาที่ทัพ “เจ้าบุญทุ่ม” เซ็นเข้ามาร่วมทีมตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากพวกเขายังไม่สามารถหาใครเข้าที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับ ดานี่ อัลเวส ตำนานแบ็คขวาตัวเก่งที่ย้ายออกจากทีมไป ซึ่งดูเหมือนว่าในตอนนี้ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เลือกที่จะให้ เซเมโด้ เป็นแบ็คขวาตัวจริงของทีมในฤดูกาลที่ผ่านมาและในอนาคต
มีเว็บไซต์พนัน บริการมากมายแต่ที่ น่าเชื่อถือได้ และได้เงินจริงง่าย ฝาก-ถอนรวดเร็ว ง่ายๆ ใน 1 นาที ทรูวอลเล็ต มีให้บริการแชทสด/ไลน์ ไอดี @Vwinthai ตลอด 24ชั่วโมง แอดขอแนะนำเว็บ VWIN หรือ เว็บเดิมพันออนไลน์ เว็บวีวิน เราตอบสนองทุกการเดิมพัน ทั้งด้านเกม กีฬาออนไลน์ คาสิโนออนไลน์ สล็อตออนไลน์ และ ล็อตเตอรี่ออนไลน์
เว็บวีวิน Vwin เป็นเว็บพนันถูกกฎหมายในไทย และที่สำคัญ Vwin เว็บ เป็นเว็บตรง ซึ่งหมายถึง ผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกกับเว็บวีวิน จะสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้โดยตรงบนหน้าเว็บไซต์ โดยที่ไม่ต้องผ่านตัวแทน หรือผ่านเอเจนท์ใดๆ
เนื่องจากเราคือผู้ให้บริการvwinที่เป็นเว็บตรง ไม่ผ่านตัวแทนใด ทำให้สมาชิกผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่า ทุกข้อมูลที่ให้ไว้กับ วีวิน จะเป็นความลับกับทางบริษัทไม่ถูกเปิดเผยที่ใด เพราะเราเป็นเว็บไซต์ที่จดทะเบียนใบอนุญากับ KINGHONOS LTD องค์กรควบคุมผู้ให้บริการด้านเกมออนไลน์ของรัฐบาลคูรูเซา